1.1 ชั่วโมงสอนตามตารางสอน รวมจำนวน 14 ชั่วโมง 10 นาที/สัปดาห์ดังนี้
กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชา วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่2-3 จำนวน 5 ชั่วโมง/สัปดาห์
กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชา วิทยาศาสตร์กายภาพ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่5
จำนวน 1 ชั่วโมง 40 นาที/สัปดาห์
กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชา เคมี จำนวน 4 ชั่วโมง 10 นาที/สัปดาห์
ลูกเสือ-เนตรนารี จำนวน 50 นาที/สัปดาห์
แนะแนว ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 จำนวน 2 ชั่วโมง 30 นาที/สัปดาห์
1.2 งานส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการเรียนรู้ รวมจำนวน 8 ชั่วโมง 20 นาที/สัปดาห์ดังนี้
กิจกรรมโฮมรูม 20 นาที จำนวน 1 ชั่วโมง 40 นาที/สัปดาห์
การพัฒนาสื่อการจัดการเรียนรู้ จำนวน 3 ชั่วโมง 20 นาที/สัปดาห์
กิจกรรมชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) จำนวน 2 ชั่วโมง 30 นาที/สัปดาห์
กิจกรรมฐานการเรียนรู้เศรษกิจพอเพียง จำนวน 50 นาที/สัปดาห์
1.3 งานพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาของสถานศึกษา จำนวน 4 ชั่วโมง 10 นาที/สัปดาห์ดังนี้
งานฝ่ายบริหารงานงบประมาณ จำนวน 4 ชั่วโมง 10 นาที/สัปดาห์
1.4 งานตอบสนองนโยบายและจุดเน้น จำนวน 50 นาที/สัปดาห์ดังนี้
โรงเรียนคุณธรรม สพฐ. จำนวน 50 นาที/สัปดาห์
รวมภาระงานที่เป็นไปตามที่ ก.ค.ศ. กำหนด ทั้งหมด 27 ชั่วโมง 30 นาที/สัปดาห์
ประเด็นที่ท้าทายในการพัฒนาผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียนของผู้จัดทำข้อตกลง ซึ่งปัจจุบัน
ดำรงตำแหน่งครู วิทยฐานะครูชำนาญการ ต้องแสดงให้เห็นถึงระดับการปฏิบัติที่คาดหวังของวิทยฐานะครูชำนาญการ คือ การแก้ไข ปัญหา การจัดการเรียนรู้และการพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นหรือมีการพัฒนามากขึ้น (ทั้งนี้ ประเด็นท้าทายอาจจะแสดงให้เห็นถึงระดับการปฏิบัติที่คาดหวังในวิทยฐานะที่สูงกว่าได้)
ประเด็นท้าทาย เรื่อง การพัฒนาทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ และทักษะในการแก้ปัญหาของผู้เรียน โดยใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์(AI)ในการสอนพร้อมกับรูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุกฐานสมรรถนะแบบรวมพลัง (Co-5STEPs)ผ่านกระบวนการชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ
1. สภาพปัญหาการจัดการเรียนรู้และคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน
จากผลการประเมินการปฏิบัติงานของสถานศึกษา (SAR) ปีการศึกษา 2566 พบว่า คุณภาพผู้เรียนนั้นมีจุดที่ควรพัฒนา คือ ผู้เรียนในทุกระดับชั้น ยังต้องพัฒนาและส่งเสริมทักษะด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณ และทักษะในการแก้ปัญหา การคิดอย่างมีเหตุผล การคิดวิเคราะห์ หรือการใช้วิจารณญาณในการคิดเรื่องต่างๆ เป็นการวิเคราะห์ข้อเท็จจริงเพื่อทำความเข้าใจปัญหาหรือเรื่องราวอย่างละเอียด โดยทั่วไปกระบวนการคิดอย่างมีเหตุผล (Critical Thinking) จะรวมถึงขั้นตอนต่างๆ เช่น การรวบรวมข้อมูล ข้อมูลจากการถามคำถาม และวิเคราะห์วิธีแก้ปัญหา ซึ่งทักษะนี้มีความสอดคล้องกับผลการจัดการเรียนรู้ในรายวิชาวิทยาศาสตร์ ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 พบว่า ทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ และทักษะในการแก้ปัญหาของผู้เรียน ยังมีผลลัพธ์ทางการเรียนรู้ไม่เป็นไปตามเกณฑ์ระดับปฏิบัติการที่กำหนดและยังพบว่าผู้เรียนควรได้รับการพัฒนาทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ และทักษะในการแก้ปัญหา
2. วิธีการดำเนินการให้บรรลุผล
1. จัดเก็บข้อมูลสารสนเทศผู้เทศผู้เรียนเพื่อวิเคราะห์สภาพปัญหา
2. จัดทำแผนการสอนที่สอดคล้องกับตัวชี้วัด
3. ออกแบบกิจกรรมโดยใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์(AI)ในการสอนพร้อมกับรูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุกฐานสมรรถนะแบบรวมพลัง (Co-5STEPs)ผ่านกระบวนการชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ
4. ครูModel และ Baddy ปรึกษาแผนร่วมกัน
5. กลุ่มPLC ร่วมกันวิพากแผนการจัดการเรียนรู้
6. นำแผนA2ที่ผ่านการวิพากแล้วนำมาใช้สอนนักเรียน
7. นักเรียนทำชิ้นงานและทบทวนบทเรียนได้ตลอดเวลา
8. สังเกตพฤติกรรมผู้เรียน ในกิจกรรมในชั้นเรียน
9. ประเมินคะแนนจากการทำกิจกรรมและชิ้นงานของนักเรียน
10. นักเรียนทำแบบประเมินความพึงพอใจ
3. ผลลัพธ์การพัฒนาที่คาดหวัง
3.1 เชิงปริมาณ
นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และ 5 ร้อยละ 80 มีทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ และทักษะในการแก้ปัญหา ผ่านเกณฑ์ที่สถานศึกษากำหนด และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการอยู่ร่วมกันในสังคมได้
3.2 เชิงคุณภาพ
นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และ 5 ทุกคน ได้รับการพัฒนาทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ และในการแก้ปัญหา โดยใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์(AI)ในการสอนพร้อมกับรูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุกฐานสมรรถนะแบบรวมพลัง (Co-5STEPs) ผ่านกระบวนการชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ และละสามารถนำสิงที่ได้รับการพัฒนา ไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันและเข้ากับสังคมได้
ปัญหา คือ ผู้เรียนมีทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ และทักษะในการแก้ปัญหาของผู้เรียน ยังมีผลลัพธ์ทางการเรียนรู้ไม่เป็นไปตามเกณฑ์ระดับปฏิบัติการที่กำหนด
แก้ปัญหาโดย ใช้สื่อเทคโนโลยีต่างๆ รวมถีงการใช้ AI เป็นตัวช่วยในการจัดกิจกรรม ในการสอนรายวิชา วิทยาศาสตร์ และการทำชิ้นงานของนักเรียน เพื่อให้นักเรียนได้สนุกสนาน ตื่นเต้นกับกิจกรรม การทำงานกลุ่มแบบรวมพลังไปด้วยกัน และยังสามารถสร้างองค์ความรู้ การคิด แก้ไขปัญหา ในการทำกิจกรรมได้อย่างสำเร็จ และสิ่งสำคัญคือการนำไปปรับประยุกต์ในชีวิตประจำวันได้